วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

โครงสร้างของเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน (Ring Network)


โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน (ring topology)
       
              โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน มีการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์โดยที่แต่ละการเชื่อมต่อจะมีลักษณะเป็นวงกลม การส่งข้อมูลภายในเครือข่ายนี้ก็จะเป็นวงกลมด้วยเช่นกัน ทิศทางการส่งข้อมูลจะเป็นทิศทางเดียวกันเสมอ จากเครื่องหนึ่งจนถึงปลายทาง ในกรณีที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งขัดข้อง การส่งข้อมูลภายในเครือข่ายชนิดนี้จะไม่สามารถทำงานต่อไปได้ ข้อดีของโครงสร้าง เครือข่ายแบบวงแหวนคือ ใช้สายเคเบิ้ลน้อย และถ้าตัดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เสียออกจากระบบ ก็จะไม่ส่งผลต่อการทำงานของระบบเครือข่ายนี้ และจะไม่มีการชนกันของข้อมูลที่แต่ละเครื่องส่ง




                        เครือข่ายแบบวงแหวน เป็นลักษณะการเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุดเช่นเดียวกับแบบดาว โดยสถานีแต่ละสถานีจะต่อกับสถานี ที่อยู่ติดทั้งสองข้างของตนเอง โดยจะมีการเชื่อมโยงเครื่องขยายสัญญาณของแต่ละสถานีเข้าด้วยกันเป็นวงแหวน สัญญาณข้อมูลจะส่งอยู่ในวงแหวนแบบจุดต่อจุดไปในทิศทางเดียวกันจนถึงผู้รับภายในเวลาที่กำหนด โดยเครื่องขยายสัญญาณเหล่านี้จะมีหน้าที่ในการรับข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของตัวเองหรือจากเครื่องขยายสัญญาณตัวก่อนหน้า และส่งข้อมูลต่อไปยังเครื่องขยายสัญญาณตัวถัดไปเรื่อย ๆ เป็นวง หากข้อมูลที่ส่งเป็นของสถานีใด เครื่องขยายสัญญาณของสถานีนั้นก็รับและส่งให้กับสถานีนั้น จึงต้องมีการตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับว่าเป็นของตนเองหรือไม่ ถ้าใช่ก็รับไว้ ถ้าไม่ใช่ก็ส่งต่อไป อีกทั้งสามารถตรวจสอบความผิดพลาดในการส่งด้วย ในกรณีที่เครื่องรับปลายทางไม่ได้รับสัญญาณข้อมูลในเวลาที่กำหนด จะมีการแจ้งว่าเกิดความผิดพลาดในเครือข่ายได้




เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ด้วยสายเคเบิลสายเดียว ในลักษณะวงแหวน ซึ่งมักจะใช้ในองค์กรที่มีคอมพิวเตอร์วางอยู่ในพื้นที่ใกล้ ๆ กัน ข้อดีของโครงสร้างแบบนี้คือ ใช้สายเคเบิลน้อย และสามารถตัดเครื่องที่เสียออกจากระบบได้ ทำให้ไม่มีผลต่อระบบเครือข่าย ข้อเสียคือหากมีเครื่องที่มีปัญหาอยู่ในระบบจะทำให้เครือข่ายไม่สามารถทำงาน ได้เลย และการเชื่อมต่อเครื่องเข้าสู่เครือข่ายอาจต้องหยุดระบบทั้งหมดลงก่อน

หลักการรับส่งข้อมูล
                การวิ่งของข้อมูลในเครือข่ายวงแหวนจะใช้ทิศทางเดียวเท่านั้น เมื่อคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งส่งข้อมูล มันจะส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องถัดไป ถ้าข้อมูลที่รับมาไม่ตรงตามที่คอมพิวเตอร์เครื่องต้นทางระบุ มันจะส่งผ่านไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องถัดไป ซึ่งจะมีขั้นตอนอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จะกว่าจะถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทางที่ถูกระบุไว้จากเครื่องต้นทาง

การขยายเพิ่มเติมระบบ
                การขยายเพิ่มเติมคอมพิวเตอร์เข้ามาในระบบนี้ค่อนข้างยุ่งยากกว่าเครือข่ายแบบ อื่น เพราะทุกครั้งที่เพิ่มคอมพิวเตอร์เข้ามา ก็จะต้องตัดต่อสายเคเบิลเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ ซึ่งจะต้องปิดเครือข่ายก่อนจนกว่าจะเชื่อมต่อเสร็จ
  การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
                เมื่อสายเคเบิลช่วงใดขาด เครือข่ายก็ไม่สามารถรับส่งข้อมูลได้จนกว่าจะซ่อมแซมสายช่วงนั้นให้เรียบ ร้อยก่อน แต่จุดที่มีปัญหาในโครงสร้างเครือข่ายแบบนี้หาได้ไม่ยากนัก ซึ่งเครือข่ายแบบวงแหวนนี้มักจะมีวงแหวนคู่ในการรับส่งข้อมูลในทิศทางต่าง ๆ กัน เพื่อเป็นเส้นทางสำรอง และป้องกันไม่ให้เครือข่ายหยุดทำงานโดยสิ้นเชิง
  ค่าใช้จ่ายในการสร้างเครือข่ายแบบวงแหวนมีค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร เนื่องจากคอมพิวเตอร์ในวงแหวนทุกตัวจะต้องเชื่อมต่อเข้ากับสายเคเบิลเส้น เดียว ซึ่งจะต้องใช้สายยาวมากขึ้น ถ้าคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องวางอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน
ข้อดี-  ใช้เคเบิลและเนื้อที่ในการติดตั้งน้อย
คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเน็ตเวิร์กมีโอกาสที่จะส่งข้อมูลได้อย่างทัดเทียมกัน
-ใช้สายส่งข้อมูลน้อยจะใกล้เคียงกับแบบ Bus
-ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง
-ง่ายในการเพิ่มจุดบริการใหม่เข้าสู่ระบบ


   ข้อเสีย
หากโหลดใดโหลดหนึ่งเกิดปัญหาขึ้นจะค้นหาได้ยากว่าต้นเหตุอยู่ที่ไหน และวงแหวนจะขาดออก

-ถ้าจุดใดจุดหนึ่งเสียหายจะทำให้ระบบทั้งระบบไม่สามารถติดต่อกันได้
-ยากในการตรวจสอบข้อผิดพลาด



วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สมาชิกในกลุ่ม



สมาชิกในกลุ่ม

1. อาจารย์ธภัทร               ชัยชูโชค           อ.ปามล์
2.นางสาวพิจิตรตรา          ธาตุจันทร์         พี่ตุ้ม
3.นางสาวอรอุมา              นวลลอย           พี่บี
4.นางสาวศุภาธินี             บูสู                     พี่บีเล็ก
5. นางสาวอามีนา            ปานแขวง           นา
6.นายวิระศักดิ์                  ขันเอียด             โอ
7.นางสาววิชชุดา             จงไข่                  ตุ๊กตา
8.นางสาวกันตา               พุทธิกีกกวีวงศ์    เกรท
9.นางสาวฟาตีม๊ะ             หลงกาสา           ม๊ะ
10.นายขจรเกียรติ            เอียดแพะ            เบียร์
11.นายนิอุสมาน             ปากาแม              มัง
12.นายประดิษฐ์              ทัศนลีลพร          แก้ว
13.นายศตวรรต               รองเลื่อน            ใบ
14.นายสุรศักดิ์                 เหมณะ               เอ็ม
15.นายธีรวัฒน์                ไผ่พรม                ต่อ
16.นายเจษฏา                จันทรประดับ        เจต
17.นางสาววิลาวรรณ      พรมสมดะ            บัว
18.นางสาวทิวา              ชูมาลี                   กิ๊บ
19.นางสาวบุณฑริกา      สุขาเขิน              หมิว
20.นาย ธีรศักดิ์               ไชยภักดี              หมึก
21.นายมะฮดี                  บิญอับดุซซาลาม ต๋อง
22.นางสาวลัดดาวรรณ์   ดกเอียด               ดาว
23.นายอาณัฐ                 หมาดอะหิน          ณัฐ1
24.นายจักรพงษ์             เกตุกานดอน         ณัฐ2
25.นายธีรวัฒน์               ไฝพรม                 ต้า
26.นางสาวฮายาตี          สะอิ                     ตี
27.นางสาวรัตนาภรณ์     มณีนิล                พี่ไก่
28.นายศิวกร                   โสพิกุล               อีก็อต

ประวัติส่วนตัว



ชื่อ  นางสาวสุพัตรา     นามสกุล   นิลวรรณ

ชื่อเล่นๆ  กวาง

ที่อยู่ปัจจุบัน

· บ้านเลขที่  71/1  หมู่ 3 ตำบลปากพะยูน อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง 93120

· หมายเลขโทรศัพท์  082-2691511  อีเมลล์   kwarng_048@hotmail.com 

ประวัติการศึกษา

·  สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจาก   
   โรงเรียนปากพะยูน อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง

·  สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจาก  
   โรงเรียนปากพะยูนพิทยาคาร อ.ปากพะยูน  จ.พัทลุง

·  สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพจาก
   วิทยาลัยการอาชีพบางแก้ว อ.บางแก้ว จ.พัทลุง 

·  กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี
   วิทยาลัยราชภัฏสงขลา  จังหวัดสงขลา

เทคโนโลยีการสื่อสาร


4G อีกก้าวของเทคโนโลยีการสื่อสารเพื่อคนไทย

                     เทคโนโลยี 4จี ( Forth Generation ) กำลังเป็นกระแสที่คนไทยหลายๆ คนในยุคปัจจุบันให้ความสนใจ แม้ตอนนี้บ้านเราจะอยู่ในช่วงการพัฒนาเทคโนโลยี 3จี ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ก็มีการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยี 4จี ควบคู่กันไปด้วย
เทคโนโลยี 4จี เป็นเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงชนิดพิเศษ โดยเป็นการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยี 3จี  จึงมีคุณสมบัติที่สามารถตอบสนองการใช้งานสื่อสารไร้สายความเร็วสูง ที่มีความเร็วตั้งแต่ 100 Mbps – 1024 Mbps (1Gbps) หรือเร็วกว่าเทคโนโลยี 3จี มากถึง เท่า สามารถเชื่อมต่อในรูปแบบ เสมือนจริงหรือ 3มิติ (three-dimensional) ระหว่างผู้ใช้โทรศัพท์ด้วยกันเอง และสถานีฐานที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งสามารถส่งผ่านข้อมูลแบบไร้สายด้วยระดับความเร็วสูงที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 100 Mbps เร็วกว่าปัจจุบันถึง 10 เท่า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สามารถชมโทรทัศน์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต หรือพูดคุยผ่านระบบ Video Call ของโทรศัพท์ ได้อย่างคมชัด ไม่กระตุกหรือดีเลย์ สามารถส่งไฟล์วิดีโอที่มีความละเอียดสูง รับชมการถ่ายทอดสด แบบ Realtime การประชุมทางไกลแบบ Interactive ที่สามารถโต้ตอบแบบทันที บริการ cloud service  สนับสนุนการเรียนผ่านทาง e-learning, การรักษาโรคทางไกล (Telemedicine) รวมไปถึงการชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งอาจพลิกวงการธุรกิจด้านมัลติมีเดียและวีดีโอออนไลน์ในอนาคต
ปัจจุบันเทคโนโลยี 4จี มีการทดลองใช้แล้วในหลายประเทศในยุโรป ญี่ปุ่น จีน และสิงคโปร์ สำหรับไทยนั้นเพิ่งเริ่มมีการทดสอบโดยความร่วมมือของผู้ให้บริการเครือข่ายเอกชน กสทช. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งเป็นเพียงการทดสอบในเชิงเทคนิคชั่วคราว โดยมิได้แสวงหากำไรผ่านการเปิดโอกาสให้ทั้งกลุ่มเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค พร้อมทั้งกลุ่มตัวอย่างของประชาชน นักเรียนนักศึกษา ได้ทำการทดสอบด้วย  ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการทดสอบในครั้งนี้ จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศของไทย ที่เรียกได้ว่าปัจจุบันยังคงล้าหลังหลายๆ ประเทศอยู่มาก

                 เหตุผลที่เลือกบทความ "4G อีกก้าวของเทคโนโลยีการสื่อสารเพื่อคนไทย" นี้ เพราะ เทคโนโลยี 4จี กำลังเป็นกระแสที่คนไทยหลายๆ คนในยุคปัจจุบันให้ความสนใจ แม้ตอนนี้บ้านเราจะอยู่ในช่วงการพัฒนาเทคโนโลยี 3จี ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ก็มีการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยี 4จี ควบคู่กันไปด้วย
เพื่อนๆบางคน รวมทั้งข้าพเจ้าเองอาจไม่รู้จักว่า 4จี คืออะไร 4จีเข้ามามีบทบาทอะไรในชีวิตประจำวันของเรา และเมื่อมี 4จีแล้ว คุณภาพชีวิตของเราจะดีขึ้นอย่างไร บทความบทความนี้สามารถตอบโจทย์ที่เราสงสัยไว้ในใจได้ครบถ้วน รวมถึงบอกครอบคลุมการทดลองใช้ทั้งในประเทศและนอกประเทศ
บทความนี้แสดงให้เห็นวาคนไทยก็มีความกระตือรือร้นสนใจทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสารโดยเริ่มมีการทดสอบโดยความร่วมมือของผู้ให้บริการเครือข่าย เอกชน กสทช. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ถึงแม้จะเป็นเพียงการทดสอบเชิงเทคนิคชั่วคราว ก็ยังเป็นความหวังอย่างยิ่งว่าการทดสอบครั้งนี้ จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศของไทย ที่เรียกได้ว่ายังคงล้าหลังหลายๆ ประเทศอยู่มาก

ประโยชน์ของเทคโนโลยีการสื่อสาร 4จี ดังนี้
Rสามารถตอบสนองการใช้งานสื่อสารไร้สายความเร็วสูง ที่มีความเร็วตั้งแต่ 100 Mbps – 1024 Mbps (1Gbps) หรือเร็วกว่าเทคโนโลยี 3จี มากถึง 7 เท่า
        Rสามารถเชื่อมต่อในรูปแบบ เสมือนจริงหรือ 3มิติ (three-dimensional) ระหว่างผู้ใช้โทรศัพท์ด้วยกันเอง และสถานีฐานที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จากเครื่องหนึ่งไปยัง อีกเครื่องหนึ่งสามารถส่งผ่านข้อมูลแบบ ไร้สายด้วยระดับความเร็วสูงที่เพิ่ม สูงขึ้นถึง 100 Mbps เร็วกว่าปัจจุบันถึง 10 เท่า
Rสามารถชมโทรทัศน์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต หรือพูดคุยผ่านระบบ Video Call ของโทรศัพท์ ได้อย่างคมชัด ไม่กระตุกหรือดีเลย์
Rสามารถส่งไฟล์วิดีโอที่มีความละเอียดสูง รับชมการถ่ายทอดสด แบบ Realtime การประชุมทางไกลแบบ Interactive ที่สามารถโต้ตอบแบบทันที บริการ cloud service  สนับสนุนการเรียนผ่านทาง e-learning, การรักษาโรคทางไกล (Telemedicine) รวมไปถึงการชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต อาจพลิกวงการธุรกิจด้านมัลติมีเดียและวีดีโอออนไลน์ในอนาคต

ข้อดีของ 4G ที่ส่งผลต่อตัวเรา และสังคม
1.ช่วยส่งเสริมความสะดวกสบายของมนุษย์ ช่วยให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์ดีขึ้น ช่วยส่งเสริมให้มี ประสิทธิภาพในการทำงาน ที่รวดเร็วขึ้น
2.การเรียนการสอนทางไกลผ่านระบบโทรศัพท์ไร้สาย การรักษาพยาบาลในแหล่งทุรกันดาน การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของเกษตรกรและอาชีพอื่นๆ
3. ช่วยให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน การสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่ช่วยย่นย่อโลกให้เล็กลง โลกมีสภาพไร้พรมแดน มีการเรียนรู้วัฒนธรรมซึ่งกันและกันมากขึ้น เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน ทำให้ลดปัญหาใน เรื่องความขัดแย้ง สังคมไร้พรมแดนทำให้มี ความเป็นอยู่แบบรวมกลุ่มประเทศมากขึ้น
4.ค่าใช้จ่ายถูกลง
5.ความละเอียดสูงบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตซึ่งเหมาะสำหรับการทำธุรกิจด้านมัลติมีเดียและวีดีโอออนไลน์ในอนาคต เพื่อเป็นการสร้างรายได้เสริมอีกทางหนึ่งสำหรับ งานแบบพาดทาม
6.ช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อกระจายข่าวสาร เพื่อให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญของกระจายระบบ ประชาธิปไตย แม้แต่การเลือกตั้งก็มีการใช้คอมพิวเตอร์รวมผล คะแนน ใช้สื่อโทรทัศน์วิทยุแจ้งผลการนับคะแนนที่ทำให้ทราบ ผลได้รวดเร็ว

ข้อเสียของ 4G ที่ส่งผลต่อเรา และสังคม
ผลกระทบในทางลบ นับตั้งแต่เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การใช้เทคโนโลยีเป็นไปอย่างกว้างขวาง ซึ่งหมายถึงการใช้เทคโนโลยีไปใน ด้านต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนย่อมต้องมีทั้งคุณและโทษ ภาพยนตร์หลายเรื่องได้ สะท้อนความคิดของการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในทางลบ ผลกระทบ ในทางลบเหล่านี้บางอย่างเป็นเพียงการคาดคะเนยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่ อย่างไรก็ตามย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ผลกระทบในทางลบ มีดังนี้

1. ทำให้เกิดอาชญากรรม เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถนำมาใช้ในการก่อให้เกิดอาชญากรรมได้ โจรผู้ร้ายใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการวางแผนการปล้น วางแผนการ โจรกรรม มีการลักลอบใช้ข้อมูลข่าวสาร มีการโจรกรรมหรือแก้ไขตัวเลข บัญชีด้วยคอมพิวเตอร์ การลอบเข้าไปแก้ไขข้อมูลอาจทำให้เกิดปัญหาหลาย อย่าง เช่น การแก้ไขระดับคะแนนของนักเรียน การแก้ไขข้อมูลในโรงพยาบาล เพื่อให้การรักษาพยาบาลคนไข้ผิด ซึ่งเป็นการทำร้ายหรือฆาตกรรมดังที่เห็นใน ภาพยนตร์

2. ทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย การใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องเห็นตัว การใช้งานคอมพิวเตอร์หรือแม้แต่การเล่นเกมที่มี ลักษณะการใช้งานเพียงคนเดียว ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นลดน้อยลง ผลกระทบนี้ทำให้มีความเชื่อว่า มนุษยสัมพันธ์ของบุคคลจะน้อยลง สังคมใหม่จะเป็นสังคมที่ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยกันมาก

3. ทำให้เกิดความวิตกกังวล ผลกระทบนี้เป็นผลกระทบทางด้านจิตใจของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่มีความวิตกกังวลว่าคอมพิวเตอร์อาจทำให้คนตกงานมากขึ้น มีการใช้งานหุ่นยนต์ มาใช้งานมากขึ้น มีระบบการผลิตที่อัตโนมัติมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้ แรงงานอาจว่างงานมากขึ้น ซึ่งความคิด

เหล่านี้จะเกิดกับบุคคล บางกลุ่มเท่านั้น แต่ถ้าบุคคลเหล่านั้นสามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยี หรือมีการพัฒนา ให้มีความรู้ความสามารถสูงขึ้นแล้วปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้น

4. ทำให้เกิดความเสี่ยงภัยทางด้านธุรกิจ ธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัย เทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น ข้อมูลข่าวสาร ทั้งหมดของธุรกิจฝากไว้ในศูนย์ข้อมูล เช่น ข้อมูลลูกหนี้การค้า ข้อมูลสินค้า และบริการ ต่าง ๆ หากเกิดการสูญหายของข้อมูล อันเนื่อง มาจากเหตุอุบัติภัย เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือ ด้วยสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้ข้อมูลหายย่อมทำ ให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง

5. ทำให้การพัฒนาอาวุธมีอำนาจทำลายสูงมากขึ้น ประเทศที่เป็นต้นตำรับของเทคโนโลยี สามารถนำเอาเทคโนโลยีไปใช้ ในการสร้างอาวุธที่มีอานุภาพการทำลายสูง ทำให้หมิ่นเหม่ต่อสงครามที่มี การทำลายสูงเกิดขึ้น

6. ทำให้เกิดการแพร่วัฒนธรรมและกระจายข่าวสารที่ไม่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด การนำมาใช้ ในทางใดจึงขึ้นอยู่กับผู้ใช้ จริยธรรมการใช้คอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญดังเช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ตมีผู้สร้างโฮมเพจหรือสร้างข้อมูลข่าว สารในเรื่องภาพที่ไม่เหมาะสม เช่น ภาพอนาจาร หรือภาพที่ทำให้ ผู้อื่นเสียหาย นอกจากนี้ยังมีการปลอมแปลงระบบจดหมาย เพื่อส่ง จดหมายถึงผู้อื่นโดยมีเจตนากระจายข่าวที่เป็นเท็จ ซึ่งจริยธรรมการ ใช้งานเครือข่ายเป็นเรื่องที่ต้องปลูกฝังกันมาก

 

การนำเอาเทคโนโลยีการสื่อสาร มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

1. ใช้ในระบบการทำงาน เพื่อความสะดวกรวดเร็วในระหว่างการดำเนินงาน
2. ระบบการปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีระเบียบมากขึ้นกว่าเดิมได้
3.สามารถติดต่อสื่อสารงาน หรือส่งงาน ได้รวดเร็ว และประหยัดเวลาขึ้น
4.การใช้เทคโนยีที่ทันสมัยขึ้น เพื่อเพิ่มความก้าวหน้าให้กับองค์กร
5. ในการทำงาน เพื่อเป็นการประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บเอกสาร